นอนไม่หลับใช่ไหม? ไปดูวิธีการนอนหลับโดยไม่ต้องพึ่งยากันเถอะ!

ฝโรคนอนไม่หลับ หรือ Insomnia คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท นอนหลับยาก ใช้เวลานอนนานกว่า 20 นาทีถึงจะหลับได้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย แต่มักพบมากในผู้หญิงและผู้สูงวัย ซึ่งโรคนอนไม่หลับนี้อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน เช่น อ่อนเพลีย ขาดสมาธิ นอกจากนี้อาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านความทรงจำ (Memory Problems) ภาวะซึมเศร้า (Depression), อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย (Irritability), ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น นอกจากนี้การนอนไม่หลับยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย

ในปัจจุบันคนหลาย ๆ คนอาจประสบปัญหานอนไม่หลับ เป็นเพราะการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ และเต็มไปด้วยความเครียดของวิถีชีวิตในปัจจุบัน ทำให้เวลาการพักผ่อนของหลาย ๆ คน ไม่เป็นไปได้ด้วยดีเท่าที่ควร หลาย ๆ คนอาจมองหาตัวช่วยทางลัด เช่น ยานอนหลับ ซึ่งอาจส่งผลเสียถ้ารับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่คุณรู้ไหมว่าเราสามารถปรับสมดุลร่างกายของเราได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ปรับอาหารการกิน, กินวิตามินและเกลือแร่ให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ, และการปรับสมดุลฮอร์โมนที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ

คุณภาพการนอนสำคัญไม่แพ้จำนวนชั่วโมง

เพราะการนอนเป็นช่วงเวลาถึงประมาณ 1 ใน 3 ของชีวิต การนอนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่เฉพาะจำนวนชั่วโมง หรือช่วงเวลาของการนอนเท่านั้นที่สำคัญ คุณภาพของการนอนที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การนอนที่ดี ต้องหลับสนิท ไม่ตื่นกลางดึก ตื่นมาแล้วต้องไม่ง่วงนอนระหว่างวัน สมองและระบบประสาท ต้องตื่นตัวและพร้อมทำงานอยู่เสมอ และรู้สึกมีความสุขในทุก ๆ วันที่ได้ตื่นมา (Sense of Well-being)

9 วิธี ดูแลรักษาโรคนอนไม่หลับ (Insomnia) โดยไม่ต้องใช้ยา

1. จัดการกับปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการนอนหลับ เช่น ความสะอาดของที่นอน อากาศในห้องนอนควรถ่ายเทได้สะดวก มีอุณหภูมิเหมาะสม แสงสว่างน้อยหรือไม่มีแสงเลย และความเงียบสภาพแวดล้อมในการนอน

2. ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ด้วยการอาบน้ำอุ่นก่อนนอน ฟังเพลงเบา ๆ สวดมนต์ภาวนาหรือนั่งสมาธิ

หลีกเลี่ยงเรื่องที่ส่งผลให้เกิดความเครียด และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว เช่น ออกกำลังกาย เล่นโทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต เล่นเกมส์ เป็นต้น

3. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบในช่วงเย็น เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เป็นต้น และให้หลีกเลี่ยงอาหารหนักและอาหารรสจัดก่อนนอน เพราะร่างกายต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการย่อยอาหาร

4. เมื่อเข้านอนแล้วแต่ไม่สามารถนอนหลับได้ในเวลาประมาณ 20 นาที ให้ลุกขึ้นจากเตียงไปทำกิจกรรมที่สบาย ๆ และผ่อนคลาย แล้วค่อยกลับไปนอนใหม่อีกครั้งเมื่อรู้สึกง่วง

5. หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังจะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยทำในช่วงเย็น 30 นาที หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน

6. ฝึกร่างกายให้เข้านอน และตื่นนอนให้เป็นเวลา พยายามกำหนดเวลาเข้านอน ให้เป็นเวลา โดยพยายามนอนก่อน 5 ทุ่ม และตื่นก่อน 6 โมงเช้า เนื่องจากฮอร์โมนที่เร่งการเจริญเติบโต และฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมร่างกายหลั่งมากที่สุดในช่วงกลางดึก คือ 23.00-04.00 น. ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวควรหลับสนิท เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองเต็มที่ และหลีกเลี่ยงการงีบหลับช่วงเวลากลางวัน

7. กินกล้วยหอม เพราะผิวของกล้วยหอมมีฤทธิ์เหมือนยานอนหลับ และมีกรดอะมิโน ที่ชื่อว่า ทริปโตฟาน (Tryptophan) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสารเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยให้ง่วงนอน รู้สึกคลายเครียด คลายกังวล และทำให้หลับสบาย

8. งดดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ แม้เครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้นอนหลับง่าย แต่ร่างกายจะหลับไม่สนิทและตื่นบ่อย กลายเป็นการนอนหลับที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ

9. งดสูบบุหรี่ และสารเสพติด เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีสารกระตุ้นการตื่นตัวของสมองทำให้ จะทำให้หลับยาก หลับไม่สนิท ตื่นบ่อย และฝันร้าย จากผลการกระตุ้นระบบประสาทของสารนิโคติน

กระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) กับการนอนหลับ

รู้ไหมว่าหนึ่งในคุณสมบัติของกระเทียมดำ คือ สามารถช่วยให้เรานอนหลับดีขึ้น? เนื่องจากกระเทียมดำมีสาร Y-aminobutyric acid (GABA) และ Polyphenols ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในกระเทียมดำในปริมาณที่สูงมาก ทำหน้าที่ในการบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต บำรุงสมอง และระบบประสาท ทำให้สมองผ่อนคลาย และนอนหลับได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

กระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) ผลิตด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ 100% โดยไม่ปรุงแต่งสารเคมีเพิ่มเติมเลย เพราะฉะนั้นการกินกระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) เพื่อช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นจึงเป็นเหมือนวิธีธรรมชาติอีกทางเลือกนึง โดยไม่ง้อยานอนหลับ

อีกคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ เมื่อหลังตื่นนอนทุกวัน ควรให้ผิวหนังได้โดนแสงแดดยามเช้า เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดีอย่างเพียงพอ และ การได้รับแสงแดดยามเช้าทุกวัน วันละ 5-10 นาที ช่วยทำให้การนอนหลับตอนกลางคืนเป็นการหลับที่สนิทและมีคุณภาพ อีกทั้งวิตามินดียังเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ช่วยป้องกันโรค และช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดวันอีกด้วย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเสริมการป้องกันโรคร้ายด้วยกระเทียมดำ ด้วยความปรารถนาดีจาก เบเนก้า (Benega)

By Benega Thailand Team