ดูแลตัวเองอย่างไร? เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ

เมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นธรรมดาที่เราจะพบกับการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ความเสื่อมโทรมของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ และสภาวะอารมณ์ ซึ่งอาจทำให้หลายคนมีความกังวลใจเมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การเตรียมตัวให้พร้อมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยความเข้าใจ เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างมีความสุข

และการเป็นผู้สูงอายุในบ้าน อาจเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลาย ๆ คนเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระของลูกหลาน (ถึงแม้ว่าลูกหลานจะไม่ได้มองว่าเป็นภาระ ก็รู้สึกกลัวอยู่ดี) หรือกลัวจะไม่มีกำลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับลูกหลานหรือเพื่อนฝูง เพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญในวัยสูงอายุ แล้วเคล็ดลับมีอะไรบ้าง?

เคล็ดลับเพื่อการเป็นผู้สูงวัยอย่างมีสุขภาพดี

  • กินอาหารให้ครบทุกหมู่ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป และควบคุมโภชนาการให้เหมาะสมกับร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง รสเค็มจัด และอาหารรสหวาน กินอาหารที่ไม่เหนียว แข็ง และมีกากใยอาหารมาก ๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • กินโปรตีนให้เพียงพอในแต่ละมื้อ หากไม่อยากกินเนื้อสัตว์เพราะเคี้ยวยาก ย่อยยาก ให้กินโปรตีนจากถั่ว เต้าหู้ หรือปลา
  • ควรกินแคลเซียมให้ครบ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งจากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง
  • จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่ว่าช่วงอายุไหน สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อการดำรงชีวิตทั้งนั้น เช่นเดียวกับการดูแลผู้สูงอายุ การจัดที่พักสำหรับผู้สูงอายุจำเป็นมากที่ต้องจัดให้มีอากาศถ่ายเท ผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกจากบ้านดังนั้นสภาพแวดล้อมในบ้านดีก็ช่วยให้จิตใจของผู้สูงอายุผ่อนคลายได้มากกว่าพื้นที่อับชื้น อาจมีการปลูกต้นไม้ไว้ช่วยฟอกอากาศ นอกจากจะช่วยเรื่องนี้แล้ว ต้นไม้ยังสามารถกลายเป็นงานอดิเรกให้ท่านได้อีกด้วย สภาพแวดล้อมที่พูดถึงไม่เพียงแต่การจัดที่พักอาศัยเท่านั้น การพาผู้สูงอายุไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือถ้าไม่สะดวกเดินทางไปไหนไกลก็สามารถพาปอดของผู้สูงอายุไปยังสวนสาธารณะใกล้ ๆ ได้
  • ดูแลสุขภาพจิตให้แจ่มใส ด้วยการทำงานอดิเรก พูดคุยกับเพื่อนฝูง
  • ตรวจสุขภาพอย่างน้อยทุกครึ่งปีถึงหนึ่งปี การตรวจสุขภาพประจำปีนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่ต้องตรวจสุขภาพจิตใจของท่านด้วย ว่าจะขนาดนั้นท่านมีเรื่องกังวลใจ สุข ทุกข์เรื่องไหนบ้าง  ตรวจร่างกายตามขั้นตอนของแพทย์เพื่อหาความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ สังเกตความผิดปกติของร่างกายท่าน หากพบเจอโรคจะได้รักษาได้ทันเวลา
  • ดูแลเรื่องการใช้ยารักษาโรค หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น ระมัดระวังเกี่ยวกับการใช้ยาของผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว จัดสรรให้กินตรงตามเวลา ไม่ละเลยการกินยาหรือทำการหยุดยาด้วยตัวเอง โรคบางโรคของผู้สูงอายุต้องกินยาต่อเนื่อง หากมีโรคอื่นแทรกซ้อนเข้ามาต้องนำยาที่กินเป็นประจำติดไปทุกครั้งเมื่อไปพบแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพราะยาบางตัวไม่สามารถกินร่วมกันได้ ไม่ควรซื้อยากินเอง หากมีอาการป่วยต้องรีบพาไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป
  • ออกกำลังกาย ขยับร่างกายบ่อย ๆ การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยสูงอายุนั้น ก็เป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ไม่ต้องใช้กำลังมาก ที่เราเห็นกันมากจะเป็นเกี่ยวกับการเดินออกกำลังกาย การรำมวยไทเก็ก การแกว่งแขน เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสาย คลายกล้ามเนื้อให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นได้มากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายแล้ว ยังทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย
  • หากิจกรรมพิเศษทำในบางเวลา เทคนิคของการดูแลผู้สูงอายุข้อต่อมาคือการคิดหากิจกรรมยามว่างทำร่วมกัน การทำกิจกรรมนั้นจะช่วยให้ความกังวลของผู้สูงอายุผ่อนคลายลง กิจกรรมเหล่านั้นอาจจะต้องดูจากความชอบของท่านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ร้องเพลง หรือการรังสรรค์ทุกวันสุดสัปดาห์ที่รวมเอาครอบครัวมากินอาหารร่วมกัน
  • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการเบื่ออาหาร เพราะอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ผลข้างเคียงจากยาที่กินอยู่ ปัญหาการย่อยอาหาร ปัญหาเรื่องฟัน

กระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) กับผู้สูงอายุ

กระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) สามารถช่วยดูแลผู้สูงอายุได้ในเรื่องของการดูแลรักษาและป้องกันโรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมและความเสื่อมของเซลล์ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดอุดตัน สมองเสื่อม นอนไม่หลับ ฯลฯ ซึ่งโรคเหล่านี้หากปล่อยไว้อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยกระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) จะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มากกว่ากระเทียมปกติถึง 13 เท่า และมีรสชาติที่เป็นมิตรกับทุกคน จึงไม่น่าแปลกใจ หากผู้สูงอายุได้ลองกินจะติดใจ และด้วยความที่กระเทียมดำเบเนก้า (Benega Black Garlic) มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงสามารถช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดอุดตัน สมองเสื่อม นอนไม่หลับ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้อีกด้วย

By Benega Thailand Team